ไม่ได้เตรียมชุบแป้งทอด แต่เพราะเป็นขี้เรื้อน ....
ขี้เรื้อนแบ่งออกเป็น 2กลุ่มใหญ่ๆ ตามลักษณะอาการ คือ ขี้เรื้อนแห้ง และขี้เรื้อนเปียก
ขี้เรื้อนเปียกเป็นโรคที่มีอาการทางผิวหนังรุนแรง และรักษายาก ใช้เวลารักษานาน
เกิดจากตัวไรชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกว่า Demodex Mite สายพันธุ์ Demodex canis
ชื่อเล่นอย่างไม่เป็นทางการคือ "ไรขี้เรื้อนเปียก"
ไรขี้เรื้อนเปียกนิสัยดีกว่าไรขี้เรื้อนแห้งนิดนึง ตรงที่มันไม่แพร่สู่คน
อาจเป็นเพราะไขมันบนผิวหนังของมนุษย์ไม่อร่อยถูกปาก
คงจะชอบกินไขมันบนหนังหมามากกว่า
ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Demodex
พวกมัน กิน นอน ผสมพันธุ์ กันบนหนังหมา
แล้วมุดลงไปวางใข่ในรากขน ทำให้รากขนอักเสบเป็นปุ่มนูนแดง
เหมือนสิวอักเสบแต่รุนแรงกว่า เมื่อฟักเป็นตัวก็จะจัดปาร์ตี้
รับประทานบุฟเฟท์ไขมันรากขนจนอิ่มหมีพีมันไปตามๆกัน
แล้วก็จะตะเกียกตะกายขึ้นมาบนผิวหนังอีกครั้ง
เพื่อดำเนินชีวิต กิน นอน ผสมพันธุ์ แล้วมุดลงไปวางไข่อีก ตามวัฎจักรของมัน
หมาที่เป็นโรคจะคันมาก คันลึกลงไปในส่วนรากขน
พยายามเกาแรงๆ ถูไถกับพื้นหรือผนัง จนเป็นแผลถลอกปอกเปิกเลือดซิบๆ
ถ้าไม่ดูแลให้ดีจะติดเชื้อ ทั้งแบคทีเรีย ทั้งยีสต์ จนน้ำเหลืองเยิ้ม
เละตุ้มเป๊ะทั้งตัว เป็นที่มาของชื่อ"ขี้เรื้อนเปียก"
ด้วยลักษณะการแพร่พันธุ์ของมัน ที่จะอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนัง
ทำให้การดูแลรักษาทำได้ยาก และใช้เวลานาน.....แต่ก็มีช่วงที่มันเป็นตัวแก่
ออกมาเดินเล่นบนหนังหมานี่แหละ ที่เราสามารถขัดขวางวงจรชีวิตมันได้
โดยต้องให้กินยาและทายาควบคู่กันไปอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง
รักษาความสะอาดพื้น และที่นอนของหมา ด้วยยาฆ่าเชื้อ
เพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียและยีสต์ เข้ามาผสมโรงร่วมวงปาร์ตี้กับไรขี้เรื้อน
หมาที่เป็นขี้เรื้อนเปียก มักจะมีความผิดปกติเรื่องระบบภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับผิวหนัง
ความบกพร่องนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ด้วย
ซึ่งหมาทั่วๆไป ที่ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ถึงแม้จะมีตัวไรขี้เรื้อนเปียก
ก็อาจจะไม่แสดงอาการของโรค เพราะระบบภูมิคุ้มกัน จะเป็นตัวช่วยระงับ
การแพร่พันธุ์ของไรขี้เรื้อน ไม่ให้ลุกลามจนระบบนิเวศน์บนหนังหมาเสียสมดุลย์
คุณหมอก็บอกให้ทำใจกับเรื่องระยะเวลาที่ต้องใช้ในการรักษา
บางตัวอาจจะนานถึง 3 เดือน 8 เดือน หรือ 1ปี ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของหมา
บวกกับปัจจัยอื่นๆเช่น ความเอาใจใส่จากเจ้าของ ,โชคชะตา, และเจ้ากรรมนายเวร
ท่าน mark henry แห่งเว็บ 101thairidgeback ได้ให้คำแนะนำไว้อย่างน่าสนใจ
เกี่ยวกับ ธรรมชาติบำบัดแทนการใช้ยา เพื่อให้หมาสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ให้แข็งแรงได้ด้วยตัวเอง อาจจะหายช้าหน่อย แต่น่าจะดีกว่าที่จะต้องกินยาตลอดชีวิต
ขออนุญาตคัดลอกไว้ที่นี่นะครับ
...............................................................................
"วิธีทางธรรมชาติที่เอาไว้รักษาขี้เรื้อนเปียก"
- พาวิ่งเล่นออกกำลังกายตามปกติ และให้ตากแดดช่วงเช้าไม่เกิน ๘ โมง อย่างน้อยวันละ ๒๐ นาที
- เปลี่ยนอาหารจากให้อาหารสำเร็จรูป มาเป็นการให้อาหารปรุงเองครับ ทำนองว่าเนื้อไก่ล้วนลอกหนังออก ๑ ส่วน ข้าวกล้อง ๑ ส่วน ผัก ผลไม้ ๑ ส่วน แล้วก็เสริมวิตามินซีประมาณ ๓๐๐ มล. น้ำมันปลา ๑ เม็ด วิตามินอี ๑ เม็ด
- ในตอนเย็นของทุกวัน หลังจากพาวิ่งออกกำลังกายแล้ว ให้นำน้ำเกลือมาเช็ดตัวเขาครับ (ซื้อน้ำเกลือขวดตามร้านขายของแพทย์) แล้วทิ้งไว้สักพัก จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่าออกให้หมด แล้วเช็ดให้แห้ง นำเข้ากรง
- กรงต้องรักษาให้แห้งอยู่เสมอ อย่าให้ชื้นครับ
- พวกปลอกคอหนัง เป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อโรค ไม่ควรใส่ ถ้าจะใส่ก็ใส่เพื่อความสวยงามเวลาออกไปข้างนอกได้ครับ แต่อย่าใส่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเสี่ยงในการเปียกน้ำ
- ทุกๆ ๒-๓ วัน ให้นำน้ำไปต้มให้เดือดประมาณ ๑ ลิตร จากนั้นนำมะนาวมา ๑ ลูก บีบน้ำมะนาวลงไปในน้ำนั้น ตั้งน้ำที่ผสมน้ำมะนาวแล้วทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง แล้วเอาน้ำนี้มาใช้เช็ดตัวเขาแทนน้ำเกลือครับ
ขี้เรื้อนเปียกเกิดจาก การที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายสุนัขลดต่ำลง ทำให้ไรในขุมขนที่มีอยู่แล้วในตัวเองของสุนัข เพิ่มปริมาณขึ้นจนเกินสมดุลย์ครับ วิธีที่บอกเหล่านี้คือวิธีที่กำจัดตัวไร (โดยการเช็ดทั้งจากน้ำเกลือ และจากน้ำผสมมะนาวครับ) และขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มภูมิต้านทานของสุนัขด้วย (ให้อาหารที่มีประโยชน์ทางเสริมภูมิคุ้มกัน และพาออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรง) รวมทั้งรักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาดเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อโรค ครับ
- พาวิ่งเล่นออกกำลังกายตามปกติ และให้ตากแดดช่วงเช้าไม่เกิน ๘ โมง อย่างน้อยวันละ ๒๐ นาที
- เปลี่ยนอาหารจากให้อาหารสำเร็จรูป มาเป็นการให้อาหารปรุงเองครับ ทำนองว่าเนื้อไก่ล้วนลอกหนังออก ๑ ส่วน ข้าวกล้อง ๑ ส่วน ผัก ผลไม้ ๑ ส่วน แล้วก็เสริมวิตามินซีประมาณ ๓๐๐ มล. น้ำมันปลา ๑ เม็ด วิตามินอี ๑ เม็ด
- ในตอนเย็นของทุกวัน หลังจากพาวิ่งออกกำลังกายแล้ว ให้นำน้ำเกลือมาเช็ดตัวเขาครับ (ซื้อน้ำเกลือขวดตามร้านขายของแพทย์) แล้วทิ้งไว้สักพัก จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่าออกให้หมด แล้วเช็ดให้แห้ง นำเข้ากรง
- กรงต้องรักษาให้แห้งอยู่เสมอ อย่าให้ชื้นครับ
- พวกปลอกคอหนัง เป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อโรค ไม่ควรใส่ ถ้าจะใส่ก็ใส่เพื่อความสวยงามเวลาออกไปข้างนอกได้ครับ แต่อย่าใส่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเสี่ยงในการเปียกน้ำ
- ทุกๆ ๒-๓ วัน ให้นำน้ำไปต้มให้เดือดประมาณ ๑ ลิตร จากนั้นนำมะนาวมา ๑ ลูก บีบน้ำมะนาวลงไปในน้ำนั้น ตั้งน้ำที่ผสมน้ำมะนาวแล้วทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง แล้วเอาน้ำนี้มาใช้เช็ดตัวเขาแทนน้ำเกลือครับ
ขี้เรื้อนเปียกเกิดจาก การที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายสุนัขลดต่ำลง ทำให้ไรในขุมขนที่มีอยู่แล้วในตัวเองของสุนัข เพิ่มปริมาณขึ้นจนเกินสมดุลย์ครับ วิธีที่บอกเหล่านี้คือวิธีที่กำจัดตัวไร (โดยการเช็ดทั้งจากน้ำเกลือ และจากน้ำผสมมะนาวครับ) และขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มภูมิต้านทานของสุนัขด้วย (ให้อาหารที่มีประโยชน์ทางเสริมภูมิคุ้มกัน และพาออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรง) รวมทั้งรักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาดเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อโรค ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขี้เรื้อนเปียก
http://www.thaidogcenter.com/vb/showthread.php?t=7165
Batman ก็เป็นหนักคะ ตอนนี้ก็รักษาอยุ่ เพิ่งกร้อนผมเมื่อวาน สอบถามเพิ่มเติมสำหรับการรักษาทางธรรมชาติ ตอนเช็ดอ่ะคะ อย่างพวกไซบีเรียนที่ขนหนา นี่เช็ดตัวนี่ยังไค่ะ ไม่น่าจะถึงผิวหนัง
ตอบลบลองให้กินดูนะครับ หนูแมวหมา รักษาหายได้หมด สุตรสมุนไพร http://www.watisan.org/webboard-detail35093-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%20%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%20%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%87%20%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%20.html
ตอบลบ